แม่ให้นมลูก มีก้อนใต้รักแร้ เช็คสิเกิดจากอะไรและวิธีแก้ไข
คุณแม่ให้นมบางคน อาจมีก้อนโตขึ้นที่ใต้รักแร้ ซึ่งทำให้รู้สึกเจ็บปวด จนทำให้เกิดข้อสงสัยและเป็นกังวลว่าจะเป็นก้อนเนื้อร้ายหรือเปล่า ดังนั้นวันนี้เราจะมาหาคำตอบกันว่าก้อนใต้รักแร้นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร พร้อมวิธีการรักษา
ก้อนใต้รักแร้คืออะไร
ก้อนใต้รักแร้ คือ ต่อมน้ำนมที่อยู่ใต้รักแร้ ซึ่งอาจส่งผลให้บางคนมีอาการปวดคัดตึงที่บริเวณดังกล่าว และไม่เพียงแต่จะเกิดขึ้นกับคุณแม่ที่กำลังให้นมลูกเท่านั้น แต่มักเกิดขึ้นในช่วงก่อนมีประจำเดือน รวมทั้งในขณะตั้งครรภ์ได้อีกด้วย
ก้อนใต้รักแร้เกิดจากอะไร
สาเหตุที่ทำให้เกิดก้อนใต้รักแร้นั้น มีดังต่อไปนี้
1.มีมาตั้งแต่เกิด
เมื่อต่อมใต้ผิวหนังนี้ยังเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และในช่วงให้นมลูก ต่อมน้ำนมโตขึ้นจนไปเบียดกับผิวหนังซึ่งไม่มีความยืดหยุ่น จนเกิดเป็นก้อนบวมใต้รักแร้ขึ้น
2.สาเหตุอื่นๆ
สาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดก้อนรักแร้ขึ้นได้ เช่น การใส่เสื้อในที่รัดแน่นจนเกินไป ซึ่งเมื่อผิวหนังส่วนนี้ถูกบีบอัดบ่อย จึงเห็นเป็นก้อนบวมขึ้น รวมทั้งอายุที่มากขึ้นก็เป็นสาเหตุสำคัญอีกสาเหตุหนึ่ง
-วิธีการแก้ไข
1.ให้ลูกดูดนมบ่อยๆ
การที่ให้ลูกได้ดูดนมบ่อยๆ เสมือนเป็นการระบายเพื่อไม่ให้เต้านมเกิดการคัดตึงมากจนเกินไป โดยให้เน้นดูดนมท่าฟุตบอล ซึ่งท่านี้สามารถระบายท่อน้ำนมที่อยู่ด้านข้างได้ จึงช่วยบรรเทาอาการเจ็บให้ดีขึ้น
2.ประคบเต้านม
ก่อนให้นม ควรประคบเต้านมด้วยน้ำอุ่น โดยการใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นมาวางประคบไว้ที่บริเวณเต้านม ซึ่งความร้อนจะช่วยให้เลือดไหลเวียนออกจากเต้านมได้ดี รวมทั้งช่วยให้น้ำนมไหลได้ดีขึ้น จึงช่วยลดอาการคัดตึงของเต้านม นอกจากนี้หลังให้นมเสร็จควรประคบเย็นต่อ ด้วยการใช้แผ่นเจลแช่เย็น หรือใบกะหล่ำปลีแช่เย็น นำมาประคบที่บริเวณเต้านมนาน 20 นาที เพราะความเย็นจะทำให้เส้นเลือดที่เลี้ยงเต้านมเกิดการหดตัว ช่วยไม่ให้อาการคัดตึงเป็นมากขึ้น และยังทำให้ก้อนที่บวมอยู่ยุบลงได้
3.ทำอัลตราซาวด์
ในกรณีที่อาการยังไม่ดีขึ้น เนื่องจากยังมีนมค้างเต้า เพราะระบายออกไม่หมด ให้ทำอัลตราซาวด์ ด้วยวิธี deep heat เพื่อช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว จึงทำให้น้ำนมไหลออกมาได้ดีขึ้น ส่วนก้อนใต้รักแร้ก็จะยุบลงได้ในที่สุด
4.ออกกำลังกาย
เมื่อก้อนใต้รักแร้ยุบแล้ว แต่ผิวหนังส่วนนั้นกลับดูย่อนคล้อย ดังนั้นควรเลือกออกกำลังกายในท่าที่ช่วยให้ผิวหนังส่วนนี้กลับมากระชับดังเดิม เช่น ท่าวิดพื้น ยกดัมเบล เป็นต้น
5.ผ่าตัด
หนทางสุดท้าย เพื่อความมั่นใจในการสวมใส่เสื้อผ้าและเพื่อความสวยงาม คุณแม่อาจเลือกวิธีการผ่าตัด ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ก่อน