เช็คด่วน ลูกกำลังเสี่ยง เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำหรือเปล่า

by BabyAndMomThai.com

เช็คด่วน ลูกกำลังเสี่ยง เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำหรือเปล่า

พฤติกรรมของลูก เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่จะละเลยไม่ได้เลย เพราะจะบอกได้ถึงความผิดปกติของลูกน้อย โดยเฉพาะโรคย้ำคิดย้ำทำที่พบได้มากในเด็ก โดยโรคนี้เกิดจากอะไร และมีอาการอย่างไรบ้าง เรามาดูกันเลย

สาเหตุของโรคย้ำคิดย้ำทำในวัยเด็ก

  • เกิดจากการทำงานของสมองผิดปกติเนื่องจากมีสารเคมีในสมองหลั่งออกมามาก
  • เกิดจากพันธุกรรม
  • เกิดจากการเลี้ยงดูการอบรมสั่งสอนของผู้ปกครอง

อาการของโรคย้ำคิดย้ำทำ

อาการย้ำคิดย้ำทำ เท่าที่พ่อแม่สังเกตได้มี 5 อย่างดังนี้

1.ความกลัวเชื้อโรค

การกลัวความสกปรก สิ่งที่ตัวเองสัมผัส ไม่ว่าจะจับสิ่งของอะไรก็กลัวว่าจะสกปรกเชื้อโรคจะติดมือจนต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ นานหลาย ๆ ครั้ง เช่น ล้างมือบ่อยมาก ผ้าปูที่นอนต้องเปลี่ยนบ่อย ๆ อาบน้ำหลาย ๆ ครั้ง ครั้งละนานเป็นชั่วโมง หรือล้างมือจนมือเป็นแผลถลอก เพราะว่ากลัวว่าเชื้อโรคจะติดมือหรือว่าใครมาโดนตัวก็ต้องไปล้างมืออาบน้ำตลอดเวลา ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นการกลัวว่าเชื้อโรคจะมาติดตัวเองจนสกปรกนั่นเอง

2.การมีระเบียบวินัยในการจัดวางสิ่งของ

ไม่ว่าจะจัดโต๊ะหนังสือสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ก็ต้องจัดแล้วจัดและขยับให้ของเท่ากันเสมอกัน ทำซ้ำ ๆ เพราะกลัวว่าจะไม่เป็นระเบียบพอขยับแล้วขยับอีก ทำซ้ำไปซ้ำมาหลาย ๆ รอบเพราะไม่แน่ใจว่าที่จัดแล้วนั้นเป็นระเบียบตรงกันเท่ากันทุกอันหรือเปล่า

3.การตรวจซ้ำ ๆ นับซ้ำหลาย ๆ รอบ

เด็กบางคนอาจจะย้ำกับผู้ปกครองเสมอมาก คุณแม่ล็อคประตูหรือยัง อย่าลืมล็อคประตูนะ หรือมีสิ่งของชิ้นไหนได้มาใหม่ที่มีหลายชิ้น ก็จะต้องตั้งใจนับ โดยนับแล้วนับอีกซ้ำไปมาหลาย ๆ ครั้ง อย่างนี้ก็น่าเป็นห่วงว่าเขากำลังเสี่ยงโรคย้ำคิดย้ำทำแล้วล่ะ

4.คิดถึงเรื่องบางเรื่องตลอดเวลา

บางครั้งอาจได้รับได้ยินข่าวเรื่องไม่ดีจากนอกบ้านมา ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ หรือภัยจากมนุษย์เมื่อกลับถึงบ้านก็จะพูดแต่เรื่องนั้นตลอดเวลา หรือสนใจแต่สิ่งนั้น เช่น สึนามิ หรือแผ่นดินไหว แล้วก็ไม่คิดเรื่องอื่นนอกจากมานั่งมโนภาพ คิดแต่เรื่องเหตุการณ์ร้าย ๆ เหล่านั้นทำให้เกิดความกังวลใจจนนอนไม่หลับ

5.สะสมสิ่งของ

บางครั้งของที่ใช้ไม่ได้แล้วหรือว่าหมดวัยที่จะเล่นแล้ว ลูกก็ยังห่วงที่จะเก็บไว้อีก กลัวว่าเมื่อถึงเวลาจะใช้แล้วไม่ได้ใช้เฝ้ากังวลอยู่แต่กลัวของจะหาย หรือไม่ได้ใช้

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่พบว่าลูกป่วยด้วยโรคนี้ก็ควรดูแลรักษาในทันที ซึ่งวิธีบำบัดที่ดีที่สุดคือพ่อแม่ต้องเข้าใจและดูแลลูกอย่างใกล้ชิด หลังจากนั้นจึงพาลูกไปพบจิตแพทย์เพื่อทำการปรับเปลี่ยนความคิดและบำบัดอาการด้วยยา ตลอดจนต้องมีเวลาให้ลูกในการชวนลูกทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามที่คุณหมอ แล้วอาการของลูกจะดีขึ้นแน่นอน

 














 

You may also like

กด LIKE เป็นกำลังจัยให้หน่อยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ-Facebook-FanPage