ผดร้อนในเด็กเล็ก คืออะไร และวิธีการป้องกัน
ผดร้อน แค่ชื่อก็บ่งบอกว่าต้องเกี่ยวกับหน้าร้อนแน่ๆ และเมื่อเกิดขึ้นกับลูกน้อยของเรา คุณแม่คงสังสัยกันแล้วว่าทำไมถึงต้องเป็นผดร้อนด้วย แล้วจะมีวิธีป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้ไหม วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกัน
ผดร้อนในเด็กเล็ก คืออะไร
ผดร้อน คือตุ่มเล็กๆ ที่เกิดขึ้นตามร่างกาย เนื่องจากการทำงานที่ผิดปกติของต่อมเหงื่อ ซึ่งในเด็กเล็กนั้น พัฒนาการของต่อมเหงื่อยังทำงานได้ไม่ดีนัก จึงส่งผลให้เกิดเป็นผดร้อนขึ้นตามตัวได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณคอ หัวไหล่ และหน้าอก รวมทั้งรักแร้ ข้อพับแขน และขาหนีบ โดยผดร้อนนั้นพบได้บ่อยในเด็กเล็ก ยิ่งในหน้าร้อนที่อากาศร้อน ทำให้เหงื่อออกง่าย ก็จะทำให้เด็กเป็นผดร้อนได้บ่อยขึ้น
วิธีการป้องกัน
เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกเป็นผดร้อน ควรดูแลเด็กด้วยวิธีดังต่อไปนี้
1.ในวันที่อากาศร้อนคุณแม่อาจพาลูกอาบน้ำบ่อยขึ้น จาก 2 ครั้งต่อวัน เป็น 3 ครั้ง หรือเช็ดตัวลูกบ่อยๆ เแทนก็ได้ เพื่อช่วยบรรเทาความร้อน และขจัดคราบเหงื่อไขออกจากร่างกายลูก
2.ให้ลูกใส่เสื้อผ้าเบาสบาย ควรเลือกเสื้อผ้าที่บางเบา ไม่รัดตัว ซึ่งจะช่วยระบายอากาศได้ดี และเลือกเนื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติเพราะสามารถดูดซับเหงื่อและความชื้นได้ดีกว่าเส้นใยสังเคราะห์
3.ใช้แผ่นประคบเย็นในกรณีที่มีผดร้อนขึ้น โดยควรประคบเย็นระหว่างวัน เผื่อช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้น
4.การอาบน้ำอุ่นจัดยิ่งกระตุ้นทำให้ผิวแห้ง และเกิดผดผื่นได้ง่าย จึงควรให้ลูกอาบน้ำในอุณหภูมิห้องแทน
5.ไม่ควรพาลูกออกไปถูกแสงแดดมากจนเกินไป แต่ควรให้ลูกอยู่ในที่ร่ม อากาศถ่ายเท มีลมพัด หรืออยู่ในบริเวณที่มีเครื่องปรับอากาศ
6.เมื่ออยู่บ้าน คุณแม่ควรเปลี่ยนให้ลูกใส่ผ้าอ้อมผ้าแทนแพมเพิส เพื่อไม่ให้เกิดความอับชื้นจนทำให้เกิดผดผื่น
7.ตัดเล็บลูกให้สั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกเกา และเกิดเป็นแผลอักเสบ
8.เลือกสบู่ที่มีค่าเป็นกลางเพื่อไม่ทำให้ลูกผิวแห้ง รวมทั้งน้ำยาซักผ้าเด็กควรใช้สูตรอ่อนโยน เพื่อลดอาการระคายเคืองผิว
9.เมื่ออาบน้ำเสร็จ ควรให้พัดลมเป่าตัวลูกให้แห้งแทนการใช้ผ้าเช็ดตัว เพราะการเช็ดด้วยผ้าเช็ดตัว อาจทำให้ผดร้อนเกิดการอักเสบขึ้นได้
10.คุณแม่ควรจัดบ้านให้ลมพัดผ่านได้ และหมั่นปัดกวาดทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ
11.ในกรณีที่ลูกเกิดอาการคันมาก และเกา จนผดร้อนเกิดการอักเสบแดงซึ่งเกิดจากการติดเชื้อ ควรพาลูกไปพบแพทย์ในทันที
การดูแลผดร้อนในเด็กเล็กนั้นควรดูแลอย่างใกล้ชิด ถ้าไม่มั่นใจควรพาลูกไปพบแพทย์ และไม่ควรซื้อยาทา หรือยากินมาให้ลูกเอง เพราะยาบางตัวอาจมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบทำให้เกิดอันตรายต่อเด็กได้
