ลูกชอบกัดเล็บ แก้ได้ด้วย 5 วิธีนี้

ปัญหาการกัดเล็บของลูก ไม่ควรปล่อยไว้จนกลายเป็นนิสัยที่ติดตัวไปจนโต ดังนั้นถ้าคุณแม่สังเกตเห็นว่าลูกมักมีพฤติกรรมชอบกัดเล็บ ก็ควรหาวิธีแก้ไขเพื่อที่จะหยุดพฤติกรรมที่ไม่ดีนี้ โดยสาเหตุที่ทำให้เด็กติดนิสัยกัดเล็บนั้น เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุทั้งจากความเครียด การเลียนแบบ ความเบื่อ หรือความเพลิดเพลิน ซึ่งก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพทั้งสิ้น แต่ก็แก้ไขได้ไม่ยากด้วย 5 วิธีนี้

1.หยุดดุ

การดุลูกเมื่อพบว่าลูกกัดเล็บนั้น เป็นเพียงการหยุดพฤติกรรมเพียงชั่วคราวเท่านั้น และอาจทำให้ลูกเครียดและกัดเล็บมากขึ้นกว่าเดิมได้ ดังนั้นควรเลิกดุและทำความเข้าใจกับลูก โดยการหาสาเหตุที่ทำให้ลูกต้องกัดเล็บ เช่น ความเครียดจากการมีน้องคนใหม่ หรือเปลี่ยนที่เรียนใหม่ เป็นต้น แล้วช่วยกันแก้ปัญหา โดยการดูแลใส่ใจลูกเพิ่มมากขึ้นจะดีกว่า

2.บอกเหตุผล

การห้ามปรามโดยปราศจากเหตุผล เสมือนยิ่งเป็นการกระตุ้นให้เด็กยิ่งทำ ดังนั้นถ้าคุณแม่อยากให้ลูกเลิกกัดเล็บ ก็ควรพูดคุยกับลูกด้วยเหตุผล ซึ่งคุณแม่สามารถบอกถึงผลเสียของการกัดเล็บให้ลูกได้รู้ เช่น ทำให้เกิดการติดเชื้อจนเจ็บป่วย ทำให้เล็บและฟันไม่สวย ทำให้เพื่อนๆ ที่โรงเรียนล้อเลียน ซึ่งจะทำให้เด็กเข้าใจมากขึ้น และตัดสินใจหยุดพฤติกรรมนี้ได้ด้วยตนเอง

3.ตัดเล็บให้สั้น

การที่ปล่อยให้ลูกเล็บยาว ก็เหมือนเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกกัดเล็บได้ง่ายขึ้น ซึ่งเด็กๆ ที่ไว้เล็บยาวก็มีผลเสียด้วยเช่นกัน เช่น เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ทำให้เกิดอันตรายเพราะเล็บยาวอาจข่วนหน้าตนเองและผู้อื่นได้ ดังนั้นคุณแม่ต้องหมั่นดูแลเล็บลูกด้วย โดยการตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ

4.หากิจกรรมให้ทำ

เด็กบางคนก็กัดเล็บตัวเองแบบไม่รู้ตัว เช่น นั่งดูทีวีเพลินๆ ก็กัดเล็บไปด้วย ซึ่งถ้าคุณแม่สังเกตเห็น ก็ควรชักชวนลูกออกไปทำกิจกรรมอื่นๆ นอกบ้านบ้าง เช่น ขี่จักรยาน วิ่งเล่น เตะบอล หรือหากิจกรรมที่ต้องใช้มือทำ เช่น ระบายสี ต่อภาพ ทำงานประดิษฐ์ โดยเมื่อมีกิจกรรมให้ลูกทำอยู่เรื่อยๆ ก็จะช่วยให้ลูกลืม และเลิกพฤติกรรมกัดเล็บนี้ได้

5.สร้างแรงจูงใจ

เมื่อเห็นว่าลูกกัดเล็บน้อยลงแล้ว คุณแม่ควรชื่นชม หรือให้รางวัลเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นการเสริมสร้างกำลังใจแก่ลูก เช่น ให้ทานขนมที่ลูกชอบ ติดสติกเกอร์เด็กดี พาไปเที่ยว เป็นต้น โดยวิธีการสร้างแรงจูงใจนี้จะทำให้ลูกมีความพยายามและความตั้งใจที่จะเลิกกัดเล็บให้ได้

การหาถึงสาเหตุที่ทำให้ลูกมีพฤติกรรมกัดเล็บ และพยายามแก้ไขจุดๆ นั้น น่าจะดีกว่าการดุด่า หรือห้ามปราบ แต่อาจต้องใช้เวลาสักหน่อยเพื่อปรับพฤติกรรมลูก ซึ่งก็คงไม่ยากเกินไปสำหรับคนเป็นพ่อแม่ที่รักและหวังดีกับลูกอยู่เสมอ

 

 














 

You may also like

กด LIKE เป็นกำลังจัยให้หน่อยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ-Facebook-FanPage